5 Simple Techniques For การพัฒนาประเทศไทยอย่างเป็นระบบ
5 Simple Techniques For การพัฒนาประเทศไทยอย่างเป็นระบบ
Blog Article
สร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างประชาธิปไตยชุมชน
กำหนดการควบคุมแบบประชาธิปไตยเหนือสถาบันซึ่งรวมถึงคณะกรรมาธิการยุโรปและอนุมัติสมาชิกของคณะกรรมาธิการ
การเสริมสร้างศักยภาพการกีฬาในการสร้างคุณค่าทางสังคมและพัฒนาประเทศ การส่งเสริมการออกกําลังกาย และกีฬาขั้นพื้นฐานให้กลายเป็นวิถีชีวิต
การส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ครอบครัวและชุมชนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประชาชนและภาคีต่าง ๆ ในสังคมร่วมมือกันในการป้องกันการทุจริต และประพฤติมิชอบ
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี
ทุกหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม มีบทบาทเชิงรุกร่วมกันในทุกขั้นตอน ของการค้นหาความจริง
ขณะที่ประเทศไทยนั้น หลักฐานแรกของนโยบายสาธารณะ แม้จะไม่ได้ปรากฏให้เห็นอย่างแน่ชัด แต่ก็อาจชี้ได้ว่า ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง คือนโยบายสาธารณะแรกของประเทศไทย ซึ่งเนื้อหาในศิลาจารึก ได้มีการระบุถึงการค้าเสรี การพัฒนาประเทศไทยอย่างเป็นระบบ สำหรับนโยบายสาธารณะในยุคปัจจุบันนั้น ดร.
พัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานผู้ประกอบการยุคใหม่ สร้างผู้ประกอบการอัจฉริยะ
"การใช้อำนาจหน้าที่ของสหภาพฯ จะต้องไม่เป็นผลให้รัฐสมาชิกถูกกีดกันมิให้ใช้อำนาจหน้าที่ของตนในด้าน" …
เรื่องราวการพัฒนาของประเทศไทย: กลับสู่เส้นทางการเติบโต
นอกจากการประชุมที่ได้จัดขึ้นโดยมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่น หน่วยงานภาคประชาสังคม องค์กรไม่แสวงผลกำไร นักวิชาการ และหน่วยงานเอกชน เรายังได้ริเริ่มกิจกรรมพิเศษเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งผ่านการแชร์มุมมองความคิดเห็นอย่างกว้างขวางต่อการพัฒนาของประเทศ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มณพิไลย นรสิงห์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน
การสร้างสถาบันที่เอื้ออำนวย: ประเทศไทยควรส่งเสริมความทั่วถึงและความโปร่งใสในการบริการสาธารณะและการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจ และจำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบเพื่อให้การทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลกลางและท้องถิ่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างขีดความสามารถสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับแต่ละพื้นที่ในการเข้าถึงบริการสาธารณะเพื่อลดความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการสาธารณะ